Privacy

นโยบายความเป็นส่วนตัว ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ธนบุรี เฮลท์ วิลเลจ ประชาอุทิศ

นโยบายความเป็นส่วนตัว

บริษัท ธนบุรี เวลบีอิ้ง จำกัด(“บริษัท”) ในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลรวมทั้งสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล และท่านในฐานะผู้ใช้บริการของบริษัทมีสิทธิได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง บริษัทจึงได้จัดทำนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ เพื่อชี้แจงวิธีการและวัตถุประสงค์ของบริษัทในการการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

1. คำนิยาม

“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ

“ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว” หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ (เช่น ข้อมูลภาพจำลองใบหน้า ข้อมูลจำลองม่านตา ข้อมูลจำลองลายนิ้วมือ) หรือข้อมูลอื่นใดที่กระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด

“ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บริษัท ธนบุรี เวลบีอิ้ง จำกัดซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

“ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการดังกล่าวไม่เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

“ประมวลผลข้อมูล” หมายถึง การเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

“กฎหมาย” หมายถึง กฎหมายที่มีผลบังคับใช้ รวมถึงพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

2. แหล่งที่มาของการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

บริษัทเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็น และเพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้กับท่านในเอกสารนี้เท่านั้น โดยบริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งที่มาของข้อมูล ดังนี้

  1. ท่านเป็นผู้ให้ข้อมูลโดยตรง (Direct Collection) ไม่ว่าจะเป็นการให้ข้อมูลเพื่อการขอรับบริการจากบริษัทผ่านช่องทางเว็บไซต์ หรือช่องทางอื่นใดของบริษัท  เช่น การนัดหมายแพทย์ การลงทะเบียนแบบออนไลน์ การสมัครรับจดหมายข่าว รวมไปถึงการทำธุรกรรมแบบออฟไลน์ เช่น การลงทะเบียนผู้ป่วยที่เคาน์เตอร์ลงทะเบียนของบริษัท
  2. การได้รับข้อมูลมาทางอ้อม (Indirect Collection) ซึ่งบริษัทอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากบุคคลที่สาม เช่น บุคคลในครอบครัวหรือบุคคลใกล้ชิดของท่าน บริษัทหรือบริษัทในเครือข่ายของบริษัท ซึ่งรวมถึงตัวแทนจำหน่ายหรือผู้ให้บริการของบริษัท หรือหน่วยงานภาครัฐในกรณีที่ท่านได้ให้ความยินยอมในการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวไว้ หรือเป็นการเปิดเผยตามที่กฎหมายกำหนด

3. ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการเก็บรวบรวม

ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมจะขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในเก็บรวบรวม ซึ่งเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมโดยตรงจากท่าน หรือจากบุคคลที่สาม ดังต่อไปนี้

  • ข้อมูลระบุตัวตน เช่น ชื่อ นามสกุล ภาพถ่าย เพศ วันเดือนปีเกิด หนังสือเดินทาง หมายเลขบัตรประชาชน หรือหมายเลขที่สามารถระบุตัวตนอื่นๆ
  • ข้อมูลสำหรับการติดต่อ เช่น ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ และอีเมล
  • ข้อมูลการเข้ารับบริการ เช่น ข้อมูลการนัดหมายแพทย์ ข้อมูลส่วนบุคคลของญาติ ความต้องการเกี่ยวกับห้องพัก และบริการเสริมอื่นๆ
  • ข้อมูลการสมัครรับข่าวสารและเข้าร่วมกิจกรรมทางการตลาด เช่น ลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมสัมมนา หรือ ลงทะเบียนรับโปรโมชั่น
  • ข้อมูลสถิติ เช่น จำนวนผู้ป่วย และการเข้าชมเว็บไซต์
  • ข้อมูลจากการเข้าใช้เว็บไซต์ของบริษัท เช่น IP Address, Cookies, นัดหมายแพทย์ออนไลน์
  • ข้อมูลด้านสุขภาพ รายงานที่เกี่ยวกับสุขภาพกาย และสุขภาพจิต การดูแลสุขภาพของท่าน ผลการทดสอบจากห้องทดลอง และการวินิจฉัย
  • ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการใช้ยาและการแพ้ยาของท่าน
  • ข้อมูลเกี่ยวกับควาทเห็นหรือข้อเสนอแนะ และผลการรักษาที่ท่านให้ไว้

4. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยมีวัตถุประสงค์ และฐานการประมวลผล (Lawful basis of processing) ดังต่อไปนี้

4.1 วัตถุประสงค์เกี่ยวกับการให้บริการทางการแพทย์

วัตถุประสงค์ ฐานการประมวลผล (Lawful basis of processing)
จัดหาบริการ หรือส่งมอบบริการของบริษัท และการเข้าถึงบริการของท่าน ไม่ว่าทางออนไลน์หรือออฟไลน์ รวมถึง

  • นัดหมายแพทย์ และส่งข้อความแจ้งเตือนการนัดหมายแพทย์ หรือการเสนอความช่วยเหลือจากบริษัท
  • การประสานงานและส่งต่อข้อมูลให้กับบริษัทในเครือข่าย และสถานพยาบาลอื่นซึ่งจะช่วยให้การส่งต่อผู้ป่วย มีความรวดเร็วขึ้น
  • การยืนยันตัวตนของผู้ป่วย
    วัตถุประสงค์ทางบัญชีหรือทางการเงิน เช่น การตรวจสอบการชำระเงินผ่านบัตรเครดิต การเรียกเก็บเงินและการตรวจสอบความถูกต้อง การขอคืนเงิน
เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาเข้ารับการรักษาพยาบาลที่ท่านเป็นคู่สัญญากับบริษัทฯ (ม.24 (3))
สำหรับข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหว: ฐานปฏิบัติตามกฎหมายในการวินิจฉัยโรคและการรักษาทางการแพทย์ เช่น พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541 และ พระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2525 (ม.26 (5) (ก))
สำหรับข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหว: เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่สามารถให้ความยินยอมได้ เช่น การเข้ารับบริการในกรณีฉุกเฉิน (Emergency Care) หรือเพื่อรับ – ส่งต่อผู้ป่วยระหว่างโรงพยาบาล (Refer) (ม.26 (1))

4.2 วัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดของบริษัท

วัตถุประสงค์ ฐานการประมวลผล (Lawful basis of processing)
1. เพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรงของบริษัท รวมถึง

  • ส่งข่าวสาร แนะนำบริการของบริษัท
  • นำเสนอรายการสิทธิประโยชน์ต่างๆ แก่สมาชิก THG Privilege ของบริษัท
  • ส่งเสริมการขาย และการลูกค้าสัมพันธ์ เช่น การส่งข้อมูลเกี่ยวกับโปรโมชั่น ผลิตภัณฑ์และบริการ รายการส่งเสริมการขาย และธุรกิจพันธมิตร
บริษัทฯ จะดำเนินการในเรื่องนี้ได้หลังจากได้รับความยินยอมจากท่านในการให้บริษัทฯ นำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด (ม. 24 และ ม.26)
วัตถุประสงค์ ฐานการประมวลผล (Lawful basis of processing)
2. ตอบข้อซักถาม และสำรวจความพึงพอใจเพื่อพัฒนาบริการ รวมถึง

  • สื่อสาร ตอบคำถาม หรือตอบสนองข้อร้องเรียนที่เกี่ยวข้องกับการใช้บริการของบริษัท เช่น ปัญหาการใช้บริการ การเรียกร้องสัมภาระหรือความสูญหายใด
  • สำรวจความพึงพอใจของลูกค้า วิจัยตลาด และวิเคราะห์ทางสถิติ เพื่อเป็นข้อมูลในการปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการ หรือสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ
เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (Legitimate Interest) (ม.24 (5))

4.3 เปิดเผยข้อมูลทางการแพทย์และข้อมูลที่เกี่ยวกับการรักษาพยาบาลของท่านให้หน่วยงานที่รับผิดชอบชำระค่าระค่ารักษาพยาบาลของท่าน

วัตถุประสงค์ ฐานการประมวลผล (Lawful basis of processing)
เปิดเผยข้อมูลทางการแพทย์และข้อมูลที่เกี่ยวกับการรักษาพยาบาลของท่านให้หน่วยงานที่รับผิดชอบชำระค่าระค่ารักษาพยาบาลของท่าน เช่น บริษัทประกันชีวิต บริษัทประกันภัย นายจ้าง หรือสถานทูตที่เกี่ยวข้อง เพื่อวัตถุประสงค์ในการอำนวยความสะดวกให้หน่วยงานที่รับผิดชอบชำระค่ารักษาพยาบาลเหล่านี้สามารถรับข้อมูลไปประมวลผลในการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลของท่านได้โดยสะดวก บริษัทฯ จะดำเนินการในเรื่องนี้เมื่อได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นข้อมูลที่เกี่ยวกับการรักษาพยาบาลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ในการนี้ (ม.26)

นอกจากวัตถุประสงค์ที่ระบุข้างต้นแล้ว บริษัทฯ จะไม่นำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่น ยกเว้นในกรณีที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 อนุญาต เช่น

  • ป้องกันระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพในกรณีที่การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหวที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่สามารถให้ความยินยอมได้ ไม่ว่ากรณีใดก็ตาม เช่น การรักษาความปลอดภัยขณะพักรักษาอยู่ในบริษัท (ม.26 (1))
  • ปฏิบัติตามกฎหมาย ข้อกำหนด ระเบียบ ข้อบังคับ หรือการร้องขอใดๆ จากหน่วยงานภาครัฐ เช่น การปฏิบัติตามหมายเรียกพยาน หรือคำสั่งศาล หรือการร้องขออื่นๆ ที่ถูกต้องตามกฎหมาย (ม.24 (6) และ ม.26 (4))
  • เพื่อประโยชน์ด้านสาธารณสุข หรือการคุ้มครองทางสังคมอื่นใดโดยบริษัทฯ จัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานและประโยชน์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (ม.26 (5) (ข))
  • เพื่อความจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายด้านการคุ้มครองแรงงาน การให้สวัสดิการรักษาพยาบาล การประกันสังคม (ม.26 (5) (ค))
  • วัตถุประสงค์อื่นๆ ที่ได้รับความยินยอมจากท่านเป็นครั้งคราว (ม.24 หรือ ม.26)

5. บุคคล/หน่วยงานที่ข้อมูลส่วนบุคคลอาจถูกเปิดเผย

บริษัทอาจเปิดเผยหรือถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลที่สาม ซึ่งอาจตั้งอยู่ภายในหรือนอกประเทศไทย ซึ่งเป็นประเทศที่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเพียงพอและเป็นไปตามหลักเกณฑ์การให้ความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่กฎหมายกำหนด และบริษัทจะดำเนินตามมาตรการที่จำเป็นและเหมาะสม หรือเป็นไปตามข้อบังคับและกฎหมาย เพื่อวัตถุประสงค์ที่ตามระบุไว้ข้างต้น ให้แก่บุคคลหรือบริษัทดังต่อไปนี้

5.1 บริษัทในเครือข่ายของบริษัท
5.2 บริษัทประกัน
5.3 พันธมิตรที่เข้าร่วมรายการโปรแกรมสะสมคะแนนและสิทธิประโยชน์
5.4 ธนาคาร และผู้ให้บริการชำระเงิน เช่น บริษัทบัตรเครดิต หรือเดบิต
5.5 บริษัทผู้ให้บริการเทคโนโลยีสารสนเทศ
5.6 หน่วยงานภาครัฐที่มีหน้าที่รับข้อมูลส่วนบุคคลจากบริษัทเพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์เพื่อประโยชน์สาธารณะ เช่น

  • เจ้าหน้าที่ หรือหน่วยงานภาครัฐที่มีหน้าที่รักษาความมั่นคงและความปลอดภัย
  • หน่วยงานตรวจคนเข้าเมือง และหน่วยงานศุลกากร
  • หน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานกำกับดูแล และหน่วยงานอื่นๆ ตามที่กฎหมายอนุญาต หรือกำหนดไว้

6. ระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

6.1 บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้สำหรับการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภท โดยบริษัทฯ ใช้มาตรฐานระยะเวลาการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการทางการแพทย์ตามที่พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541 และ ฉบับแก้ไขล่าสุด กำหนดให้เก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการทางการแพทย์ไม่น้อยกว่า 5 ปี แต่บริษัทจะเก็บข้อมูลดังกล่าวไว้ไม่เกิน 10 ปีนับจากวันที่มารับการรับการรักษาพยาบาลครั้งสุดท้าย เมื่อครบกำหนด 10 ปีแล้วจะทำลายข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว
6.2 สำหรับข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่ใช่ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการทางการแพทย์ บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลตามระยะเวลาโดยคำนึงถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้องและโดยคำนึงถึงแนวปฏิบัติสำหรับแต่ละประเภทของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งหลังจากพ้นกำหนดระยะเวลาดังกล่าวแล้ว บริษัทจะดำเนินการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลนั้นตามกระบวนการและภายในกำหนดระยะเวลาที่กำหนดไว้ตามนโยบายของบริษัท
6.3 ในกรณีที่บริษัทฯ ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ปฏิบัติตามคำสั่งศาล หรือต้องก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมายเพื่อเข้ากระบวนการระงับข้อพิพาทใดๆ บริษัทฯ อาจจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลได้ตามระยะเวลาของอายุความตามกฎหมาย หรือจนกว่าข้อพิพาทนั้นจะถึงที่สุดแล้วแต่กรณี

7. มาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะใช้มาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรวมถึง

จำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากพนักงาน ลูกจ้าง และตัวแทนของบริษัทที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งนี้ เพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง การใช้ การแก้ไข การเปลี่ยนแปลงหรือการเปิดเผยโดยไม่มีสิทธิ หรือโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

  • จัดให้มีวิธีการทางเทคโนโลยีเพื่อป้องกันไม่ให้มีการเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ไม่ได้รับอนุญาต
  • มีระบบตรวจสอบเพื่อจัดการทำลายข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่มีความจำเป็นในการดำเนินการของบริษัทฯ
  • ในกรณีที่เป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหวบริษัทฯ จะจัดให้มีมาตรการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลเอกสารและข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ในด้านการเข้าถึงและควบคุมการใช้งาน มีระบบการใช้งานและระบบสำรองพร้อมทั้งแผนสำหรับกรณีฉุกเฉิน และมีการตรวจสอบประเมินความเสี่ยงของระบบอย่างสม่ำเสมอ

8. การโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ

8.1 บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศเพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งกับท่านไว้ข้างต้น บริษัทฯ จะดำเนินการดังกล่าวหลังจากที่ได้รับการยินยอมจากท่านแล้ว โดยบริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบถึงมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่อาจไม่เพียงพอของประเทศปลายทาง
8.2 บริษัทสามารถโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปได้โดยไม่ต้องขอความยินยอมจากท่านในกรณีที่การโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศนั้นเป็นไปเพื่อปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญา หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญานั้น หรือเป็นไปตามข้อกำหนดในพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

9. การใช้งานคุกกี้ (Cookie)

เมื่อท่านเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัท บริษัทใช้คุกกี้เพื่อให้มั่นใจว่าท่านจะได้รับประสบการณ์ที่ดีจากการใช้งานบนเว็บไซต์ของบริษัทฯ คุกกี้เป็นไฟล์ขนาดเล็กที่จัดเก็บข้อมูลและบันทึกลงไปในอุปกรณ์คอมพิวเตอร์หรือเครื่องมือสื่อสารที่เข้าใช้งานของท่านผ่านทางเว็บเบราว์เซอร์ที่ท่านเลือกใช้ในขณะที่ท่านเข้าชมเว็บไซต์

บริษัทใช้คุกกี้เพื่อเก็บเอกลักษณ์การเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของท่านโดยเอกลักษณ์นี้ทำให้บริษัทสามารถจำลักษณะการใช้งานเว็บไซต์ของท่านได้ง่ายขึ้น และข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำไปใช้เพื่อปรับปรุงเว็บไซต์ของบริษัทให้เข้ากับความต้องการของท่านมากยิ่งขึ้น เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการใช้งานเว็บไซต์ท่าน ท่านสามารถตั้งค่าคุกกี้ได้เมื่อท่านเข้าสู่เว็บไซต์ของบริษัท โดยท่านสามารถเลือกได้ว่าจะอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้บริษัทใช้คุกกี้ของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ในด้านใด

11. การเพิกถอนความยินยอมการได้รับการติดต่อด้านการตลาดแบบบตรง (Direct Marketing) ของบริษัท

หากท่านไม่ประสงค์ให้บริษัทติดต่อท่านทางด้านการตลาดแบบตรง ซึ่งรวมถึงการับข่าวสารเรื่องบริการของบริษัท สิทธิประโยชน์ต่างๆ แก่สมาชิก THG Privilege กิจกรรมส่งเสริมการขาย และการลูกค้าสัมพันธ์ เช่น การส่งข้อมูลเกี่ยวกับโปรโมชั่น ผลิตภัณฑ์และบริการ รายการส่งเสริมการขาย และธุรกิจพันธมิตร ท่านสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer: DPO) ตามช่องท่างติดต่อข้างล่างเพื่อเพิกถอนความยินยอมในการได้รับการติดต่อด้านการตลาดแบบตรงจากบริษัท

12. ช่องทางการติดต่อ

หากท่านมีคำถามใด ๆ เกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ หรือต้องการใช้สิทธิของท่าน ท่านสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทได้ ตามช่องทางดังต่อไปนี้

  • อีเมล : alisa.w@thonburihealthvillage.com
  • โทรศัพท์ : +66 (0)98 565 2635

หรือส่งไปรษณีย์มาที่
เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท ธนบุรี เวลบีอิ้ง จำกัด
61/160 ถ.พระราม9 แขวงห้วยขวาง
เขตห้วยขวาง กทม. 10310
เบอร์โทรศัพท์ +66 (0)2 119 5410
อีเมล์  info@thonburihealthvillage.com

13. การเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้

บริษัทอาจมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้เป็นครั้งคราว เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่เกิดขึ้น เช่น การเปลี่ยนแปลงที่เกี่ยวกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยทางบริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ด้วยช่องทางที่เหมาะสม

By clicking Accept All Cookies, you agree to the storing of cookies on your device to enhance site navigation, analyze site usage, and assist in our marketing efforts. Cookies

Privacy Preferences

Accept All Cookies
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save